รถต้นแบบคันนี้มีชื่อว่า F 015 ตัวรถออกแบบได้อย่างโฉบเฉี่ยวล้ำยุค ไฟหน้าและไฟท้ายก็เปลี่ยนมาใช้ไฟ LED ที่สำคัญมันสามารถสื่อสารกับรถยนต์คันอื่นๆ ทั้งเวลาที่คนขับเองหรือเปิดโหมดขับอัตโนมัติ โดยไฟจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเวลาที่จะเปลี่ยนเลน ไฟ LED ด้านท้ายสามารถแสดงข้อความ STOP หรือ SLOW เพื่อบอกให้รถที่ตามมารู้ได้
วัสดุที่ใช้ผลิตตัวถังจะประกอบไปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, เหล็กและอะลูมิเนียมจึงทำให้น้ำหนักน้อยกว่ารถที่ขายในท้องตลาดถึงครึ่งนึงทีเดียว ส่วนการตกแต่งภายในก็หรูหราไฮเทคไม่แพ้กัน การสั่งงานจะเป็นจอสัมผัส นอกจากจอที่คอนโซลด้านหน้าแล้วยังมีจอด้านข้างอีก ที่สำคัญยังรองรับการสั่งงานทั้งจิ้มจอ, การออกท่าทาง รวมถึงแค่จ้องจอก็สั่งงานได้ด้วย เพราะเขาใส่เทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตามาให้ด้วย ที่นั่งด้านหน้าสามารถหมุนกลับได้ เพื่อให้ผู้โดยสารและคนขับ หันหน้าคุยกันหรือทำกิจกรรมร่วมกันได้สะดวก เวลาที่คุณเปิดประตูรถที่นั่งก็จะหมุนออกไปทางประตูช่วยให้ขึ้นลงรถได้สะดวกยิ่งขึ้น
F 015 ยังฉลาด เพราะมีเทคโนโลยี “Extended Sense” มันสามารถรู้พิกัดของตัวมันเอง ละเอียดขนาดมิลลิเมตรเลยทีเดียว แถมยังระบุตัวคนขับได้อีกโดยใช้สมาร์ทโฟน นอกจากนั้นบนกระจกหน้ารถจะมี heads-up display ที่สามารถแสดงเลขที่ถนน, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์ รวมถึงแสดงที่ว่างของสองที่นี้ได้ด้วยเพียงแค่ขับรถผ่านเท่านั้น
รถยนต์แห่งอนาคตก็จะต้องมาพร้อมระบบ CLOUD ซึ่ง F 015 สามารถใช้ในการควบคุมการเดินทาง เช่น บอกจุดหมายสั่งงานจากบนพีซีหรือสมาร์ทโฟน, ตั้งค่าอุณหภูมิในรถ เป็นต้น ในอนาคตก็จะมีแอปออกมารองรับการทำงานอื่นๆ อีก เช่น หาที่จอดรถ หรือเรียกให้รถมารับอัตโนมัติ
Mercedes F 015 ต้นแบบนี้สามารถจอดรถได้ด้วยตัวเอง มันสามารถวิ่งได้ไกล 1,100 กิโลเมตร ในการชาร์จไฟเต็มแค่ครั้งเดียว ที่ทำอย่างนี้ได้ก็เป็นผลมาจาก F-Cell plug-in hybrid system ที่ Mercedes เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 และพัฒนาความสามารถให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
©1999-2024 eideas.co,.ltd. all rights reserved www.eideas.co.th