มีรายงานว่าตำรวจในกรุงปักกิ่ง กำลังทดสอบแว่นตาอัจฉริยะแบบใหม่ที่มีระบบจดจำใบหน้า และระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ที่ด่านตรวจทางหลวงในเขตชานเมือง โดยเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ตรวจจับใบหน้าของบุคคล และเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของผู้ต้องหาของตำรวจ
แว่นตาดังกล่าวนี้พัฒนาขึ้นโดย LLVision บริษัทสตาร์ทอัพ ซึ่งได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะผลักดันการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ซึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อติดตามพฤติกรรมที่อาจเป็นการต่อต้านผลประโยชน์ของพรรคคอมมิวนิสต์
การคอยติดตามเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวต่างๆ ของพลเมืองในลักษณะนี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงในแง่มุมต่างๆ เช่นความกังวลเกี่ยวกับแอ็ปเปิ้ลเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีดารย้ายข้อมูลผู้ใช้ iCloud ของจีนที่ดำเดินการโดยบริษัทในท้องถิ่น อย่างไรก็ตามหัวหน้าฝ่ายบริหารของ LLVision กล่าวกับ Reuters ว่า "เราไม่มีเหตุที่จะต้องเป็นกังวล เพราะเราไว้ใจรัฐบาล และหน่วยงานของจีน ว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้ด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม"
นับเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าได้ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับผู้กระทำความผิดในกรุงปักกิ่ง ทั้งนี้ ในปี 2560 นั้นก็มีรายงานว่า สุขาบางแห่งในเมืองหลวงแห่งนี้ มีการสแกนใบหน้าของผู้เข้าใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านมาขโมยกระดาษทิชชู่เพื่อนำกลับไปใช้ที่บ้านของตนเอง เทคโนโลยีนี้ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับกระดาษทิชชู่ได้มากเกินสองฟุตในระยะเวลาเก้านาที
ในสหรัฐอเมริกาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้ายังไม่ได้ใช้โดยตำรวจ อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในขณะนี้ไปไกลถึงขนาดสามารถจดจำบุคคลต่างๆได้แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปิดบังตัวตนโดยการสวมเคราปลอมหรือแว่นกันแดดขนาดใญ่ๆได้
อ้างอิง : www.digitaltrends.com/cool-tech/beijing-facial-recognition-police
©1999-2024 eideas.co,.ltd. all rights reserved www.eideas.co.th