We had to use the phone as a phone. The call is only Is known as the father of modern 1G 2G phones can take photographs. Send by e-mail, but also impedes the signal hitch for moving the 3G actually is a phone system that is developed one step further to be connected all the time in the data, so the data connection. better It also was not charged at the time of use, but is based on the data load. And a speed of more jobs. In the 3G era, so it's not just a phone anymore 3G. Makes talking to face to face. Can see the movement inside the house, or by browsing security camera footage over 3G, or whether it's about. Software, it will have a greater role in the phone. It is a bit more likely to signal to control the phone. Things at home such as a refrigerator turned off. Turn off the rice cooker, etc. or whatever. With more storage space, 3G will provide these benefits, such as the map itself, it can be downloaded from the Internet. Access to the phone via 3G to be, and we can also see images from surveillance cameras in the house. On the Internet or in the phone call that we can know the movement within the home, anywhere, anytime with 3G.
คำว่า 3G ในเรื่องของโทรศัพท์ก็คือมาตรฐานการพัฒนาซึ่งแบ่งเป็นยุคๆ ตั้งแต่ยุค1G ที่โทรศัพท์ เป็นแบบเซลลูล่าอันใหญ่ๆ ใช้สัญญาณอนาล็อก หรือสัญญาณคลื่นวิทยุซึ่งเกิดในปี 1981 ยุคต่อมาคือ 2G เริ่มในปี1992 โดยใช้ระบบดิจิตอล คือการนำสัญญาณเสียงมาบีบอัดให้เล็กลงจนเป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิค ต่อมาในปี 2001ก็เริ่มมีการใช้โทรศัพท์ 3G ที่ญี่ปุ่นเป็นที่แรกที่นำระบบ 3G เข้ามาใช้จนถึงทุกวันนี้ จุดเด่นของ 3G คือรับส่งข้อมูลได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ส่วนจุดอ่อนของ 3G คือ การเปลี่ยนจาก 2G ปัจจุบัน ในประเทศไทยเรานั้นน่าจะเรียกว่าระบบ 2.9G คือจากระบบ 2Gเป็น2.5G จนมาเป็น 2.9G เช่น สามารถ ถ่ายภาพแล้วก็อัพเดตขึ้น Facebookได้เลย สามารถเรียกดูภาพกล้องวงจรปิดได้จากมือถือที่ใช้แต่ก็ยังต้อง คอยอยู่ดี แต่ถ้าเป็น 3G แล้วก็จะเร็วขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นก็เลยถือว่ามันไม่ได้ตอบสนองโจทย์ทั้งหมด เพราะถ้าจะพัฒนาระบบทั้งหมดให้เป็น 3G ต้องใช้งบลงทุนมากมายมหาศาล แต่สิ่งที่ได้มาบางทีอาจ จะไม่คุ้มกับการใช้งานจริง ในส่วนของประเทศที่ใช้ 3Gมานานแล้วเขามองว่าจะเปลี่ยนเป็นระบบ4G กันแล้ว 4G เป็นเหมือนการสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกๆ 10 ปี
4G มีลักษณะแตกต่างจาก3G คือ ในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบเคลื่อนไหวไร้รอยต่อ 4G เป็น เครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบใหม่นี้จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติ การเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional)ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการ ส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะ นี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว
สำหรับ 4G จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที นอกจากนี้ การพัฒนาต่างๆ ที่ ระบบ 3Gรองรับ ระบบ 4G ก็จะรองรับในเวอร์ชั่นที่สูงกว่า อย่างเช่น การใช้งาน มัลติมีเดียที่ดีขึ้น การรับส่งข้อมูลในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นกว่า การดูภาพจากกล้องวงจรปิดแบบ ไม่มีการติดขัด มีการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นสากลและความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ รูปแบบต่างๆ ได้ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการอุตสาหกรรมต่างยังลังเลที่จะคาดการณ์ ทิศทางที่เทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้จะเป็นไป แต่ก็คาดว่าการพัฒนาของ ระบบ 4G ได้รวมเอาความสามารถในการค้นหาสัญญาณเครือข่ายได้ทั่วโลก เข้าไว้ ด้วย ระบบ 4G อาจจะเชื่อมต่อโลกทั้งใบและสามารถกระทำได้ในทุกที่ไม่ว่าจะอยู่บนหรือแม้จะ อยู่เหนือพื้นผิวของโลกได้อย่างแท้จริง
©1999-2024 eideas.co,.ltd. all rights reserved www.eideas.co.th